2022/12/28
ในเดือนตุลาคม 2021 ANA ได้เปิดตัวโครงการใหม่ที่ชื่อว่า “การริเริ่มเที่ยวบิน SAF: เพื่อคนรุ่นต่อไป” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อช่วยลูกค้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่งทางอากาศผ่านการใช้ SAF (น้ำมันอากาศยานที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Aviation Fuel ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “SAF”) (*1) ฯลฯ
บริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ใช้บริการ ANA จะได้รับใบรับรองการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่รับรองโดยองค์กรภายนอกเมื่อบริษัทชำระเงินในส่วนของต้นทุน SAF ผ่านโครงการนี้ ดังนั้น จึงเป็นการมีส่วนร่วมในการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าของบริษัท นอกเหนือจากโครงการขนส่งสินค้า ซึ่งมีเป้าหมายเป็นบริษัทที่ดำเนินการเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่งสินค้า ตั้งแต่เดือนเมษายน 2022 เราได้เริ่มนำเสนอโครงการองค์กร ซึ่งมีเป้าหมายที่บริษัทที่ดำเนินการเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระหว่างการเดินทางประกอบธุรกิจของพนักงาน ทั้งนี้ก็เพื่อให้บริษัทต่างๆ สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้มากยิ่งขึ้น
ในเวลานี้ เราจะให้ความสำคัญที่โครงการองค์กร การริเริ่มเที่ยวบิน SAF: เพื่อคนรุ่นต่อไปนี้
ตั้งแต่การเปิดตัวโครงการองค์กรในเดือนเมษายน 2022 เราพบว่าสาธารณประโยชน์ในด้านประเด็นปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเมื่อสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2022 โครงการได้เติบโตขึ้นโดยประกอบด้วยลูกค้า 5 ราย ซึ่งนำโดย Itochu Corporation, Nomura Holdings, Inc. และ PwC Japan
เราได้สัมภาษณ์คุณอินุอิ (แผนกการจัดการสายการบิน ANA, การลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์) ผู้ที่รับผิดชอบโครงการนี้
ผมมีความสนใจในด้าน SDGs มาโดยตลอดเนื่องจากเป็นปัญหาทางสังคม และผมพบว่าเป็นสิ่งที่น่าปลาบปลื้มมากที่จะแก้ไขสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงในฐานะบริษัท เราได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นปัญหาสำหรับอุตสาหกรรมการบินโดยรวมมาตั้งแต่ประมาณปี 2021 และแม้ว่าเราจะดำเนินการที่ข้อที่ 13 จากเป้าหมาย 17 ข้อของ SDG (*2) “ดำเนินมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง” ผมรู้สึกว่ามีขีดจำกัดในสิ่งที่บริษัทแต่ละแห่งสามารถทำได้เพื่อแก้ปัญหานี้ ดังนั้น ผมเชื่อว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่จะสร้างพันธมิตรและความร่วมมือกับอุตหกรรมโดยรวม ปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงอยู่ในข้อที่ 13 จากเป้าหมาย 17 ข้อของ SDG และผมมองว่าเป็นบางสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้โดยปราศจากความมุ่งมั่นที่กำหนดไว้ในข้อที่ 17 “บรรลุเป้าหมายด้วยความร่วมมือ” โครงการองค์กรนำเสนอโดย ANA แต่ผมพบว่าเป็นสิ่งที่น่าปลาบปลื้มเป็นพิเศษที่เราสามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ได้ผ่านความร่วมมือกับบริษัทที่เข้ารวมในโครงการนี้อย่างแท้จริง แม้ว่าการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไม่ได้ให้ผลลัพธ์ในทันทีและจับต้องได้ ผมพบว่ากระบวนการในการปรึกษาหารือปัญหาเดียวกันนี้กับผู้คนจากอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงจนมาถึงปัจจุบันเป็นสิ่งที่คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปมาก
ผมเชื่อว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้บริษัทมากมายเข้าใจอีกครั้งว่าการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงเป็นปัญหาที่สำคัญต่อความต่อเนื่องทางธุรกิจของบริษัท และดำเนินการร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ เมื่อมองดูทั่วโลกแล้ว เราจะพบว่าการเลือกการขนส่งที่ตระหนักถึงสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับแบรนด์และคุณค่าของบริษัท ผมรู้สึกว่าความท้าทายในอนาคตของเราคือการถ่ายทอดกระแสโลกให้กับทุกคนและเพื่อเพิ่มจำนวนบริษัทที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ให้เพิ่มมากขึ้น
การขนส่งทางอากาศมีบทบาทที่สำคัญทั้งทางเศรษฐกิจและทางวัฒนธรรมผ่านการขนส่งผู้คนและสินค้าทั่วโลก แต่ในปัจจุบันนี้ เมื่อเราต้องรับมือกับสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ผู้คนบางกลุ่มกลับคิดว่าการใช้เครื่องบินเป็นสิ่งที่น่าละอายใจ แม้ว่าจะจริงที่การดำเนินการเครื่องบินจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปัจจุบัน แต่เราต้องการที่จะนำเสนอการขนส่งทางอากาศที่เป็นกลางทางคาร์บอนในอนาคตอย่างแน่นอนโดยการร่วมมือกับบริษัทมากมายเพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (SAF)
ANA Group มีเป้าหมายที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์จากการให้บริการเครื่องบินภายในปีงบประมาณ 2050 ด้วยการใช้ SAF