เปิดตัว "Japan Ultra Fresh Air Transport"

การใช้เครื่องบินในการขนส่งผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและอาหารทะเลจากแหล่งผลิตไปยังแหล่งบริโภคขนาดใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณในเมืองด้วยความเร็วเพียง 6 ชั่วโมงซึ่งเป็นความเร็วที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จะทำให้สามารถส่งมอบคุณค่าของผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและอาหารทะเลอันสดใหม่ให้กับผู้บริโภคได้

ด้วยระบบโลจิสติกส์แบบดั้งเดิม จะใช้เวลาประมาณสามถึงสี่วันจากแหล่งผลิตไปยังแหล่งซื้อขายของผู้บริโภค เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงแนวโน้มนี้ให้เป็นวิธีการที่มุ่งเน้นคุณค่าของความสดใหม่ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด บริษัทนี้จึงมีบทบาทที่สำคัญในการเชื่อมโยงผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกโดยตรงในระบบโลจิสติกส์ที่เรียกว่า "Sanchoku Model" (โมเดลการจัดส่งโดยตรง) ซึ่งประสานกระบวนการโลจิสติกส์ทั้งหมดตั้งแต่แหล่งผลิต ตลาดค้าส่ง การขนส่งทางอากาศ การขนส่งภาคพื้นดิน ผู้ค้าปลีก และผู้บริโภคในระบบเดียว

โดยการให้ผู้ผลิตขนส่งผลิตภัณฑ์สดใหม่ของตนไปยังสนามบินที่ใกล้ที่สุดและใช้พื้นที่ขนส่งสินค้าที่ว่างอยู่ในเครื่องบินเชิงพาณิชย์ ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรในปริมาณน้อยที่ยังไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของระบบโลจิสติกส์ที่มีอยู่แล้ว ผลิตภัณฑ์หายากที่ไม่พร้อมวางจำหน่ายในเขตเมืองในทันที และผลิตภัณฑ์ชั้นเลิศที่กระจายอยู่ตามชนบทก็สามารถนำมาขนส่งได้เช่นกัน

มีแบรนด์ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรหลายแบรนด์ที่เรายังไม่รู้จักเนื่องจากแบรนด์เหล่านั้นผลิตผลิตภัณฑ์ในปริมาณน้อย หรือบริโภคเฉพาะในภูมิภาคเท่านั้นเนื่องจากมีเวลาสุกงอมที่จำกัด

หนึ่งในความหลากหลายดังกล่าวคือ "Yuu Tomato" ที่ผลิตในเมืองอิวาคุนิ จังหวัดยามากุจิ แบรนด์นี้ไม่ได้ผลิตในปริมาณมากและหาซื้อได้ยากในเขตเมืองจนกระทั่งตอนนี้ เนื่องจากการขนส่งผลิตภัณฑ์ที่สุกงอมเต็มที่ในระยะทางไกลนั้นเป็นเรื่องยาก ด้วยการทำให้สินค้าดังกล่าวมีวางจำหน่ายในหลายร้านค่าผ่านโมเดลการจัดส่งโดยตรงทางโลจิสติกส์ จึงส่งผลให้ผู้ผลิตมีโอกาสที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้น

ผู้ผลิตหลายรายได้ให้ความเห็นว่าพวกเขาต่างใฝ่ฝันว่าจะได้แสดงผลิตภัณฑ์ของตนให้ผู้คนในโตเกียวได้ชื่นชม และพวกเขายินดีมากที่ได้รู้ว่าผลิตภัณฑ์ที่เคยจำกัดอยู่ในภูมิภาคของตนนั้นได้ออกไปสู่เขตในเมืองและเป็นผลิตภัณฑ์ที่แสนอร่อย

นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ได้ว่าความสนใจในด้านการผลิตนั้นจะนำไปสู่การปฏิสัมพันธ์และการย้ายผู้คนไปยังภูมิภาคนั้นๆ

เราได้สัมภาษณ์ประธานคิโนชิตะผู้ที่เป็นผู้ริเริ่ม Japan Ultra Fresh Air Transport เกี่ยวกับสิ่งกระตุ้นให้เกิดระบบข้อเสนอของพนักงานและวิสัยทัศน์ของเขาในอนาคต

ครอบครัวของผมเป็นชาวไร่องุ่น และผมคิดอยู่เสมอว่าผลองุ่นสดจากเครือมีรสชาติดีที่สุดและผมอยากให้ผู้คนได้ลองชิมขณะที่ยังสด
เมื่อผมคิดว่า ANA ควรจะทำอะไรสักอย่าง ผมจึงเริ่มสงสัยว่าทำไมระบบโลจิสติกส์ที่มีอยู่แล้วนั้นใช้เวลานานมากๆ ในการจัดส่งองุ่นสดใหม่ ในเมื่อสามารถใช้เวลาสั้นๆ ที่จะส่งองุ่นเหมือนกับเป็นสัมภาระของผู้โดยสารที่อยู่ในเครื่องบิน มีผลิตภัณฑ์มากมายในประเทศญี่ปุ่นที่ไม่สามารถจัดส่งผ่านระบบโลจิสติกส์ในตลาดที่มีอยู่ได้ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่เน้นไปที่ความสดใหม่สูงสุด หรือผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในปริมาณน้อย และผมต้องการใช้พื้นที่ขนส่งสินค้าของเครื่องบินโดยสารของ ANA เพื่อจัดส่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวและเชื่อมโยงชุมชนท้องถิ่นเพื่อสร้างความมีชีวิตชีวาให้กับภูมิภาค จากนั้น ผมได้ยื่นระบบข้อเสนอของพนักงานเนื่องจากผมคิดว่าในฐานะสายการบิน เราไม่ควรจำหน่ายแค่พื้นที่ขนส่งสินค้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ควรออกไปให้บริการและเข้ารับสิ่งของต่างๆ ที่เราสามารถขนส่งได้ด้วยตัวเอง

เราได้ดำเนินการทดลองตรวจสอบประมาณ 20 ครั้ง และเป็นสิ่งที่ยากมากๆ ในการใส่แนวคิดลงไปในการทำงานจริง เราใช้เวลามากมายในการค้นหาผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกที่ยินดีที่จะเข้าร่วมในการทดลองตรวจสอบและให้ความรู้ความเข้าใจถึงความสำคัญของโครงการนี้ เราเริ่มต้นด้วยร้านค้าปลีกขนาดเล็กจากการสอบถามผู้คนที่เรารู้จัก แม้ว่าจะไม่ใช่ร้านค้าปลีก แต่เรายังมีนักร้องที่ใช้ผลไม้ยามเช้าของเราเสิร์ฟเป็นของหวานในการแสดงระหว่างอาหารมื้อค่ำ

ประการแรกคือการเพิ่มจำนวนผู้ค้าปลีกที่จัดการผลิตภัณฑ์ของเรา และประการที่สองคือการเพิ่มจำนวนกิจกรรมที่เราขายผลิตภัณฑ์ของเราในปัจจุบัน เช่น ในซุปเปอร์มาร์เก็ต เพื่อให้เราสามารถขายผลิตภัณฑ์ได้ทุกวัน ท้ายที่สุด เราต้องการสนับสนุนผู้ผลิตโดยการจัดการผลิตภัณฑ์ของพวกเขาให้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการช่วยสนับสนุนการฟื้นฟูภูมิภาค
ผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดจะมีแบรนด์เฉพาะของตนเอง เราต้องการให้ผู้คนได้รู้จักและให้ความสนใจในผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของพื้นที่ หากเป็นไปได้ก็อยากให้ได้ทานแบบสดใหม่จากถิ่นที่เพาะปลูก ซึ่งจะให้รสชาติที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง!
เราหวังว่าโมเดลการจัดส่งโดยตรงนี้จะนำไปสู่รายได้ที่สูงขึ้นสำหรับผู้ผลิต และเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จะสร้างความมีชีวิตชีวาให้กับชุมชน